PEAK ผนึกกำลังกับ 4 ผู้ลงทุน มุ่งพัฒนาธุรกิจเพื่อ SMEs

PEAK ได้รับการสนับสนุนเงินลงทุนรอบ Series A จากพาร์ทเนอร์ทางธุรกิจขนาดใหญ่ 4 แห่ง ประกอบไปด้วย

1. บัวหลวงเวนเจอร์ส บริษัทร่วมลงทุนของธนาคารกรุงเทพ
2. กรุงศรี ฟินโนเวต บริษัทร่วมลงทุนของธนาคารกรุงศรีอยุธยา
3. กองทุนร่วมลงทุน SMEs Private Equity Trust Fund โดยธนาคารออมสิน โดยมี N-Vest Venture เป็นผู้จัดการกองทุน
4. เอ็มเอทวีซี โดยคุณภาวุธ พงษ์วิทยภานุ

การระดมทุนในครั้งนี้มีเป้าหมายที่จะผลักดันแพลตฟอร์มของคนไทยที่มีศักยภาพในด้านการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานให้ SMEs ไทยในการเติบโตในปี 2022 เป็นต้นไป ซึ่ง “PEAK” เป็นแพลตฟอร์มที่สามารถช่วยธุรกิจจัดการบัญชีอย่างมืออาชีพ เพิ่มโอกาสเติบโต-ร่วมเติมเต็ม Startup Ecosystem

บัวหลวงเวนเจอร์ส

บัวหลวงเวนเจอร์ส บริษัทร่วมลงทุนในเครือธนาคารกรุงเทพ ประกาศเป็นผู้ลงทุนหลัก จับมือ กรุงศรี ฟินโนเวต บริษัทร่วมลงทุนในเครือกรุงศรี เข้าร่วมลงทุนในรอบ Series A ให้กับ PUUN Intelligent ฟินเทคสตาร์ทอัพ สัญชาติไทย ผู้พัฒนาโปรแกรมบัญชีออนไลน์ (Cloud Accounting Platform Program) ที่มีนักบัญชีไทยใช้งานมากเป็นอันดับ 1 ภายใต้ชื่อ PEAK โดยมีแผนนำเงินมาลงทุนขยายตลาดและพัฒนาศักยภาพของผลิตภัณฑ์ให้ตอบโจทย์การใช้งานได้หลากหลายยิ่งขึ้น

นายกฤษณ์ พันธ์รัตนมาลา กรรมการผู้จัดการ บริษัท บัวหลวงเวนเจอร์ส จำกัด กล่าวว่า การเข้าร่วมลงทุนในครั้งนี้ ถือเป็นอีกหนึ่งโอกาสการลงทุนในธุรกิจสตาร์ทอัพที่ดีมาก เนื่องจากแพลตฟอร์ม PEAK เป็นโซลูชันที่ตอบโจทย์การจัดการด้านบัญชี ช่วยให้ผู้ประกอบการสามารถปรับปรุงการทำบัญชีได้อย่างเป็นมืออาชีพ จัดเก็บข้อมูลเป็นระบบ ถูกต้องและน่าเชื่อถือ แก้ไขปัญหาให้แก่ผู้ประกอบธุรกิจ โดยเฉพาะ SME จำนวนมากที่มักมีข้อจำกัดเรื่องความเชี่ยวชาญในการจัดการเอกสารและบัญชีที่เป็นมาตรฐาน อันเป็นส่วนสำคัญที่จะทำให้ธุรกิจเหล่านั้นสามารถเข้าถึงแหล่งเงินทุนและเพิ่มโอกาสเติบโตทางธุรกิจได้มากขึ้นในอนาคต

“การเข้าสนับสนุนเงินลงทุนเพื่อร่วมพัฒนาแพลตฟอร์ม PEAK ของบัวหลวงเวนเจอร์ส จะทำให้ลูกค้าที่เป็นผู้ประกอบการ SME รวมถึงลูกค้าธนาคารกรุงเทพสามารถเข้าถึงโปรแกรมบัญชีที่ดีและมีประสิทธิภาพอย่างครบวงจร ในราคาเหมาะสม มีฟังก์ชันการใช้งานที่สามารถเข้าถึงโปรแกรมได้จากทุกอุปกรณ์ และจากทุกที่ ทุกเวลา ช่วยให้บริหารธุรกิจโดยมีข้อมูลแบบ Real time จึงสามารถตัดสินใจทางธุรกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ทั้งยังเพิ่มโอกาสการเข้าถึงแหล่งเงินทุนต่างๆ ได้มากขึ้น ขณะเดียวกัน จะช่วยอำนวยความสะดวกแก่ธนาคารในการนำข้อมูลทางบัญชีมาประมวลผล เพื่อพิจารณาสินเชื่อได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพมากขึ้น สามารถต่อยอดโดยร่วมมือกันทำตลาด ขยายฐานผู้ใช้งานระบบบัญชีและสินเชื่อได้พร้อมกัน เป็นประโยชน์กับทุกฝ่าย” นายกฤษณ์ กล่าว

กรุงศรี ฟินโนเวต

นายแซม ตันสกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท กรุงศรี ฟินโนเวต จำกัด กล่าวว่า แพลตฟอร์ม PEAK นับเป็นบริการโปรแกรมบัญชีออนไลน์ชั้นนำระดับประเทศ ซึ่งมีฐานลูกค้ากว่า 10,000 บริษัท โดยกรุงศรี ฟินโนเวต เล็งเห็นถึงศักยภาพการเติบโตของ PEAK และโอกาสที่จะนำเทคโนโลยีและโซลูชันต่างๆ มาช่วยสนับสนุนและเพิ่มประสิทธิภาพให้กับกลุ่มลูกค้าธุรกิจ SME ของกรุงศรีธนาคาร รวมถึงช่วยลดความเสี่ยงในการสูญหายของข้อมูล การเพิ่มระบบการรักษาความปลอดภัย อีกทั้งการร่วมลงทุนในครั้งนี้ยังเป็นโอกาสให้กรุงศรีและ PEAK ร่วมมือกันพัฒนาและต่อยอดผลิตภัณฑ์และบริการเพื่อนำเสนอให้กับลูกค้าทั้งของกรุงศรีและ PEAK ต่อไปในอนาคต

“เป้าหมายของกรุงศรี ฟินโนเวต คือการเป็นตัวกลางเชื่อมโยงธุรกิจสตาร์ทอัพกับธุรกิจในเครือ ผ่านการสนับสนุนและลงทุนในเทคโนโลยี นวัตกรรม และธุรกิจสตาร์ทอัพที่มีศักยภาพ ทั้งระดับประเทศและในภูมิภาค เพื่อเพิ่มแนวทางพัฒนาธุรกิจในแต่ละมิติ ทั้งการลดต้นทุน การสร้างรายได้ การสร้างนวัตกรรม และเพิ่มโอกาสในการเข้าถึงข้อมูล ซึ่งตามแผนธุรกิจระยะกลางปี 2564 -2566 กรุงศรีจะเน้นพัฒนานวัตกรรมและโซลูชันทางการเงินที่ส่งเสริม Ecosystem ให้ทั้งผู้ใช้งาน และผู้ให้บริการ รวมไปถึงคู่ค้าทางธุรกิจ มีความสะดวก คล่องตัว และมีประสิทธิภาพมากขึ้น พร้อมสร้างเครือข่ายที่แข็งแกร่งในภูมิภาคอาเซียน สนับสนุนการขยายธุรกิจสู่ต่างประเทศ รวมไปถึงเติมเต็ม Startup Ecosystem ผ่านการลงทุนในธุรกิจต่างๆ อย่างต่อเนื่อง โดยสตาร์ทอัพเหล่านั้นสามารถเข้ามาช่วยพัฒนาธุรกิจของกรุงศรีผ่านการผสานความร่วมมือระหว่างกัน ขณะที่กรุงศรีจะสามารถใช้ศักยภาพ ความเชี่ยวชาญ และเครือข่ายที่มีในการช่วยสนับสนุนสตาร์ทอัพด้วย โดยตามแผนธุรกิจระยะกลาง กรุงศรี ฟินโนเวต มุ่งเน้นกลุ่มที่เชื่อมโยงกับธุรกิจรถยนต์ ธุรกิจที่อยู่อาศัย และธุรกิจอีคอมเมิร์ซเป็นหลัก” นายแซม กล่าว

กองทุนร่วมลงทุน SMEs Private Equity Trust Fund

นายศรัณย์ สุตันติวรคุณ หุ้นส่วนบริหาร บริษัท เอ็น-เวสต์ เวนเจอร์ ซึ่งจัดการกองทุนร่วมลงทุน SMEs Private Equity Trust Fund โดยธนาคารออมสิน จำกัด ยังได้กล่าวว่า “เวลาที่เอ็น-เวสต์ เวนเจอร์ ลงทุนในอะไรเรามองใน 3 เรื่องใหญ่ๆ เรื่องแรก คือ ทีมงานที่มีความพร้อมความสามารถซึ่งผมคิดว่าคือสิ่งที่ PEAK มีทีมงานและนักลงทุนที่พร้อมจะขยายตัวไปได้ไกลมากกว่านี้ เข้าใจทั้งในแง่คนใช้ และ pain point ของลูกค้าเหมือนไปอยู่กินกันมาเลย และพัฒนาโปรดักส์ในทุกๆ วันเพื่อตอบโจทย์ความต้องการได้ดีขึ้น ข้อที่สองคือ ขนาดของตลาดซึ่งในอดีตถึงปัจจุบันกลุ่มคนที่เป็นรากฐานของประเทศนั้นมีเยอะมากพอที่จะทำให้การลงทุนในครั้งนี้คุ้มค่า เพราะอยู่ในตลาดที่ค่อนข้างใหญ่ และข้อสุดท้ายโซลูชันของ PEAK เมื่อเทียบกับคู่แข่งที่เป็นเสือนอนกินมานานตั้งแต่ผมยังเด็กจนถึงปัจจุบันก็ไม่ได้พัฒนามากนัก ซึ่ง PEAK จะมา disrupt และเป็นผู้นำในตลาดนี้ได้อย่างง่ายดาย” นายศรัณย์ กล่าว

เอ็มเอทวีซี

นายภาวุธ พงษ์วิทยภานุ จากบริษัท เอ็มเอทวีซี จำกัด ได้กล่าวว่า “สำหรับธุรกิจทุกๆ อย่าง ระบบบัญชีคือหัวใจ และผมเองก็เป็นนักธุรกิจที่ลงทุนในสตาร์ทอัพหลายธุรกิจ เพื่อจะให้ระบบธุรกิจสตาร์ทอัพของผมเชื่อมโยงเข้ากันทั้งหมด ถ้าไม่มี PEAK ธุรกิจอื่นของผมจะทำงานลำบาก ดังนั้นการลงทุนใน PEAK คือ การลงทุนหัวใจของทั้งหมดเลยที่เราจะเดินหน้าไปด้วยกัน ทั้งนี้ข้อมูลทั้งหมดจะเชื่อมต่อกันเป็นระบบ จากระบบบัญชีเชื่อมไประบบการขาย ซึ่งผมมีระบบ payment อยู่แล้วไปสู่ระบบด้านการตลาด ไปสู่ระบบขนส่งและ Big data ทั้งหมดจะถูกร้อยเรียงเข้าด้วยกัน ผมต้องการจะนำเสนอแพลตฟอร์มโซลูชันเดียว ซึ่งมีระบบธุรกิจทั้งหมดอยู่ข้างใน ซึ่ง PEAK จะกลายเป็นหัวใจในนั้น” นายภาวุธ กล่าว

PEAK and Investor
PEAK and Investor

จะเห็นว่านักลงทุนทั้ง 4 ท่านได้ให้ความเห็นเกี่ยวกับ PEAK ได้น่าสนใจทีเดียว ด้านนายภีม เพชรเกตุ ผู้ก่อตั้งและ CEO แห่ง PUUN Intelligent ผู้พัฒนาแพลตฟอร์ม PEAK กล่าวถึงเป้าหมายหลังปิดดีลระดมทุนครั้งนี้จากผู้ร่วมลงทุนทั้ง 4 กลุ่ม ประกอบด้วย บัวหลวงเวนเจอร์ส กรุงศรี ฟินโนเวต กองทุนร่วมลงทุนโดยธนาคารออมสิน และเอ็มเอทวีซี ว่า บริษัทฯ มีแผนนำเงินจากการระดมทุนไปขยายตลาดและพัฒนาศักยภาพของผลิตภัณฑ์ให้สามารถตอบโจทย์การใช้งานตามวัตถุประสงค์ต่างๆ ได้หลากหลายมากขึ้น เพื่อตอบโจทย์การเป็นผู้ช่วยที่คอยอยู่เคียงข้างทุกธุรกิจ ทั้งกลุ่มสตาร์ทอัพ และ SME ให้ก้าวสู่ความสำเร็จได้อย่างรวดเร็ว สอดคล้องกับพันธกิจหลักที่ต้องการมีส่วนช่วยสร้างการเติบโตและสร้างความสำเร็จให้ผู้ประกอบธุรกิจได้มากขึ้น ด้วยการพัฒนาระบบการทำบัญชีที่ดีและมีความเป็นมืออาชีพ รวมทั้งสามารถนำข้อมูลที่จัดเก็บไว้มาใช้ประกอบการตัดสินใจ ประกอบการวางแผนกลยุทธ์ รวมไปถึงช่วยให้เข้าถึงแหล่งเงินทุนได้ง่ายขึ้น ภายใต้ต้นทุนที่เหมาะสม เพื่อช่วยยกระดับธุรกิจและพัฒนาเศรษฐกิจของไทย 

PEAK Profile

สำหรับโปรแกรมบัญชี PEAK ปัจจุบันมีธุรกิจ SMEs ทั่วประเทศใช้งานกว่า 10,000 กิจการ และยังมีกว่า 1,000 สำนักงานบัญชีพันธมิตรและนักบัญชีอิสระ มียอดธุรกรรมในระบบกว่า 1,000,000 รายการ/เดือน คิดเป็นมูลค่ากว่า 25,000 ล้านบาท/เดือน

“PEAK มีเป้าหมายพัฒนาแพลตฟอร์มที่มีส่วนช่วยพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานทางการเงินให้แก่ผู้ประกอบการ ภายใต้ความมุ่งมั่นที่จะช่วยอำนวยความสะดวกสบายให้ลูกค้า ในปัจจุบันโปรแกรมบัญชีออนไลน์ของ PEAK สามารถบันทึกและติดตามข้อมูลรายการบัญชีต่างๆ ได้แบบ Real time และได้พัฒนาฟังก์ชันใช้งานให้ตอบโจทย์ลักษณะงานของลูกค้าแต่ละกลุ่ม ตามวิสัยทัศน์ ที่ต้องการจะ “ช่วยให้นักบัญชีมีเวลา และช่วยให้ผู้ประกอบการทำธุรกิจให้เติบโต โดยเป็นผู้ช่วยทางด้านบัญชีและการเงินที่มีความเชี่ยวชาญในการจัดการข้อมูลธุรกิจอย่างครบถ้วน และพร้อมสนับสนุนให้ทุกธุรกิจประสบความสำเร็จได้ตามเป้าหมายที่วางไว้” นายภีม กล่าว

การผนึกกำลังในครั้งนี้นับเป็นข่าวดีที่อย่างยิ่ง โดยเฉพาะสำหรับผู้ประกอบการและเจ้าของธุรกิจที่ต้องการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานทางการเงินให้เข้มแข็ง ที่ต้องจับตากันเป็นพิเศษว่า PEAK จะมีแนวทางพัฒนานวัตกรรมใหม่ๆ มาส่งเสริมศักยภาพงานบัญชี เป็นเพื่อนคู่คิดทางธุรกิจขององค์กรต่อไปอย่างไร เรียกว่าเป็นอีกหนึ่งก้าวสำคัญของการพัฒนาแพลตฟอร์มบัญชีและแวดวงธุรกิจที่แท้จริง