howto-connect-api-leceipt

Leceipt คือระบบจัดทำเอกสารอิเล็กทรอนิกส์ รองรับการทำงานกับระบบ e-Tax invoice & e-Receipt กรมสรรพากร ช่วยลดค่าจัดส่งและเวลาในการจัดส่งเอกสารให้ลูกค้า สร้างเอกสาร e-Tax ได้ทุกเอกสาร ไม่ว่าจะเป็น ใบเสร็จรับเงิน/ใบกำกับภาษี, ใบแจ้งหนี้/ใบกำกับภาษี, ใบเสร็จ ช่วยประหยัดต้นทุนในการพิมพ์เอกสารและประหยัดเวลาในการจัดส่งเอกสาร รวมถึงการจัดทำข้อมูล e-Tax invoice & e-Receipt เป็นไปตามมาตรฐานของกรมสรรพากรอีกด้วย

วิธีการเชื่อมต่อระหว่าง PEAK กับ Leceipt สามารถทำได้ตามขั้นตอนดังนี้

ขั้นตอนที่ 1 : ไปที่เมนู “ตั้งค่า” > “เชื่อมต่อระบบภายนอก” > “เชื่อมต่อ e-Tax invoice”

ขั้นตอนที่ 2 : เลือกโปรแกรม Leceipt จากนั้นกดปุ่ม “เชื่อมต่อ” 

จากนั้นจะมี Pop-up แสดงข้อตกลงและเงื่อนไขในการเชื่อมต่อให้ User ทำความเข้าใจก่อนการเชื่อมต่อ จากนั้น กด Tick mark “ฉันรับรู้ และเข้าใจข้อควรรู้ก่อนการเชื่อมต่อข้อมูลกับระบบภายนอกดังกล่าว” และกด “ยืนยัน”

จากนั้นจะมีข้อความเบื้องต้นแนะนำการเชื่อมต่อกับ Leceipt ให้กด “เชื่อมต่อ”

ขั้นตอนที่ 3 : ในหน้านี้ ระบบจะแสดง Token สำหรับใช้ในการเชื่อมต่อกับ Leceipt ให้คุณคัดลอก User Token

(หมายเหตุ : หากคุณเป็นผู้ดูแลระบบสูงสุด จะสามารถเห็น Token ของ User อื่นๆในกิจการตนเองได้ด้วย แต่หากไม่ใช่ คุณจะสามารถเห็นได้เพียง Token ของตนเองเท่านั้น)

ขั้นตอนที่ 4 : ไปที่หน้าเว็บไซต์ของ Leceipt (www.leceipt.com) เพื่อเข้าสู่ระบบ จากนั้นที่เมนูด้านซ้าย ไปที่เมนู “ข้อมูลภายนอก” > “PEAK Account”

จากนั้นนำ Token ที่คัดลอกจาก PEAK มาใส่ที่ Leceipt และกด “เชื่อมต่อ” จากนั้นระบบจะเชื่อมต่อข้อมูลกันโดยอัตโนมัติ

การส่งข้อมูลระหว่าง PEAK และ Leceipt

ในส่วนของการเชื่อมต่อกันระหว่าง PEAK และ Leceipt จะเป็นการเชื่อมต่อกันโดย Leceipt จะดึงข้อมูลเอกสารที่ User สร้างจาก PEAK แล้วนำไปจัดทำเอกสาร e-Tax Invoice & e-Receipt ที่หน้าของ Leceipt โดยมีขั้นตอนดังนี้

ขั้นตอนที่ 1 : เมื่อสร้างเอกสารใน PEAK เรียบร้อยแล้ว ให้มาที่หน้าของ Leceipt โดยไปที่เมนู “ข้อมูลภายนอก” > “PEAK Account”

เมื่อเชื่อมต่อเรียบร้อยแล้ว จะเห็นเป็นหน้าดังกล่าว ให้เลือกเอกสารที่ต้องการดังนี้

ช่องที่ 1 : เลือกประเภทเอกสารที่ต้องการดึงข้อมูลจาก PEAK โดย จะมีเลือกดังนี้

  • ใบแจ้งหนี้/ใบกำกับภาษี
  • ใบเสร็จรับเงิน
  • ใบเสร็จรับเงิน/ใบกำกับภาษี

ช่องที่ 2 : เลือกสถานะของเอกสารตามประเภทของเอกสาร ซึ่งแนะนำให้เลือกสถานะเอกสารที่อนุมัติแล้วเพื่อมาจัดทำเอกสาร e-Tax Invoice & e-Receipt

ช่องที่ 3 : เลือกเดือนของเอกสาร เป็นการเลือกดึงเอกสารจาก PEAK โดยอ้างอิงจากวันที่ออกเอกสารจาก PEAK 

ขั้นตอนที่ 2 : เมื่อเลือกเอกสารที่ต้องการแล้ว ระบบจะดึงข้อมูลเอกสารจาก PEAK มาแสดงดังรูปด้านล่าง User สามารถกดที่ไอคอน “เอกสาร” เพื่อดูเอกสารที่ดึงมาได้’ และหากต้องการออกเอกสาร e-Tax Invoice สามารถกด “สร้างเอกสาร e-Tax” ได้เลย

หากต้องการออกเอกสาร e-Tax invoice & e-Receipt ทีละหลายๆเอกสารพร้อมกัน สามารถทำได้โดยกดที่ไอคอนด้านหน้าเอกสารเพื่อเลือกเอกสารที่ต้องการ จากนั้นจะมีปุ่ม “สร้างเอกสาร e-Tax” ปรากฎขึ้นมา ให้กดที่ปุ่มเพื่อเป็นการสร้าง e-Tax Invoice & e-Receipt ทีละหลายเอกสาร

ขั้นตอนที่ 3 : เมื่อระบบของ Leceipt สร้างเอกสาร e-Tax สำเร็จแล้วให้ไปที่เมนู “ไฟล์เอกสาร” > “แฟ้มเอกสาร”

ระบบจะแสดงข้อมูลดังภาพด้านล่าง ให้ใส่ข้อมูลในแต่ละช่องเพื่อหาเอกสารที่ต้องการ

ช่องที่ 1 : ให้เลือกเอกสารที่ต้องการแสดง เช่น ใบแจ้งหนี้/ใบกำกับภาษี, ใบเสร็จรับเงิน หรือ ใบเสร็จรับเงิน/ใบกำกับภาษี

ช่องที่ 2 : เลือกประเภทของวันที่ โดยมีให้เลือกดังนี้

  • วันที่สร้างเอกสาร : จะอ้างอิงจากวันที่ User กดปุ่ม “สร้างเอกสาร e-Tax” ในหน้าของ Leceipt
  • วันที่บนเอกสาร : จะอ้างอิงจากวันที่บนเอกสารของ PEAK

ช่องที่ 3 : เลือกเดือนจากเอกสารที่ต้องการ โดยอ้างอิงจากช่องที่ 2 ที่เลือกไว้

เมื่อเลือกแล้ว ระบบจะแสดงเอกสารตามฟิลเตอร์ที่ User เลือกไว้ สามารถกดที่รูปไฟล์ PDF เพื่อดูเอกสาร e-Tax Invoice & e-Receipt ที่สร้างไว้ได้ หรือ กดที่รูปไฟล์ XML เพื่อดูรูปแบบของไฟล์ XML ที่จะส่งให้กรมสรรพากรได้เช่นกัน

โดยเมื่อกดดูไฟล์ PDF แล้ว จะเห็นว่าเอกสารจะมีลายเซ็นดิจิทัล (Digital Signature) จะมีข้อความกำกับที่ท้ายเอกสาร ดังรูปด้านล่าง

User สามารถกดปุ่ม “เลือก” เพื่อจัดการเอกสาร e-Tax ได้โดยมีตัวเลือกดังนี้

  • เปิดเอกสาร : เปิดเพื่อดูเอกสาร e-Tax ในรูปแบบ PEAK ที่มีลายเซ็นดิจิทัล (Digital Signature)
  • ดาวน์โหลด : ดาวน์โหลดเอกสาร PDF เพื่อส่งให้กับคู่ค้า หรือเก็บเป็นข้อมูลไว้
  • อีเมล : ส่งเอกสารไปยังอีเมลปลายทางที่ต้องการ
  • SMS : ส่งไฟล์เอกสารทาง SMS ไปที่เบอร์มือถือของหมายเลขปลายทางที่ต้องการส่ง (โดยจะส่งเป็นลิงก์เอกสาร และลิงก์จะหมดอายุใน 30 วัน)
  • ในส่วนของการสร้างเอกสารอื่นๆ จะเป็นการสร้างเอกสารของ Leceipt โดยตรงที่ไม่ใช่การเชื่อมต่อข้อมูลจาก PEAK โดย User สามารถสร้างเอกสารต่างๆ เช่น ใบเพิ่มหนี้และใบลดหนี้ได้จากหน้าของ Leceipt ได้ตามต้องการ


– จบขั้นตอนการเชื่อมต่อ PEAK x Leceipt –

คำถามที่พบบ่อย (FAQs)

PEAK แตกต่างจากโปรแกรมบัญชีอื่นอย่างไร ?


1. เป็นโปรแกรมบัญชีออนไลน์

    สามารถเข้าถึงข้อมูลจากทุกที่และทุกเวลาโดยไม่ต้องกังวลการจ้างพนักงาน IT เพื่อดูแลเครื่อง server มีการ Back up ข้อมูลทุก ๆ 5 นาที

2. ฟังก์ชั่นครบจบตั้งแต่ออกเอกสารถึงปิดงบ

    ระบบจะบันทึกข้อมูลบัญชีโดยอัตโนมัติเมื่อคุณสร้างเอกสารธุรกิจ และแสดงข้อมูลเกี่ยวกับสต็อก รายได้ ค่าใช้จ่าย กำไร ขาดทุน และงบการเงินแบบ Real Time นอกจากนี้ยังมีฟังก์ชั่นอื่น ๆ ที่ช่วยประหยัดเวลาของคุณอีกมากมาย

รายละเอียด PEAK Highlight Feature

ฟีเจอร์สำหรับ เจ้าของธุรกิจ นักบัญชี และพันธมิตรซอฟแวร์

3.การบริการสนับสนุนและการอบรม

    มีเจ้าหน้าที่นักบัญชีที่เชี่ยวชาญให้บริการการตอบคำถามทุกวันไม่เว้นวันหยุดนักขัตฤกษ์และมีสัมมนาสอนการใช้งานฟรีทุกเดือน หรือสัมมนาเกี่ยวกับเรื่องอื่นๆ เช่น บัญชีภาษี การเชื่อมต่อร้านค้าออนไลน์ เป็นต้น

หากคุณสนใจโปรแกรมบัญชีออนไลน์ PEAK คลิกเพื่อทดลองใช้งานฟรี 30 วัน หรือ คลิกดูโปรโมชั่นของ PEAK ได้หรือโทร 1485 กด 1 เพื่อพูดคุยกับทีมงานของ PEAK เพิ่มเติม

PEAK เก็บข้อมูลไว้กี่ปี ?


ระบบจะเก็บข้อมูลไว้ 5 ปี นับจากครั้งล่าสุดที่คุณเข้าสู่ระบบ(Log in) แต่หากคุณเข้ามาใช้งานโปรแกรมอยู่เรื่อยๆ ข้อมูลจะไม่หายไปแน่นอน นอกจากนี้ระบบสำรองข้อมูล(Back up)อัตโนมัติทุกๆ 5 นาทีเพื่อให้มั่นใจว่าข้อมูลจะไม่สูญหายและยังมีการสำรองข้อมูลแบบ Real-time ทำให้คุณไม่ต้องเสียเวลามานั่ง Backup ข้อมูลเอง

PEAK เป็นโปรแกรมที่ซื้อขาดครั้งเดียวหรือไม่ ?


การซื้อหรือการต่ออายุโปรแแกรมเป็นแบบรายเดือน และรายปี

เนื่องจาก PEAK เป็นธุรกิจ SaaS (Software as a Service) ให้บริการผ่านระบบคลาวด์พร้อมการ backup ข้อมูลอัตโนมัติ ซึ่งมีค่าใช้จ่ายการใช้ server รายเดือนเป็นต้นทุนของการให้บริการ (ต่างกับโปรแกรมออฟไลน์ซึ่งผู้ใช้งานต้องดูแลในส่วนของ backup และ server เอง) ทำให้แพ็กเก็จของ PEAK ไม่มีแบบซื้อขาด

นอกจากนี้การที่ PEAK ไม่มีแพ็คเกจแบบซื้อขาด ยังเป็นการทำให้ผู้ใช้งานมั่นใจได้ว่า PEAK ต้องรักษามาตรฐานในการพัฒนาโปรแกรมให้ทันสมัย และใช้งานได้ดีอยู่ตลอดเวลา เพื่อให้ผู้ใช้งานมีความมั่นใจในการต่ออายุ

หากคุณสนใจโปรแกรมบัญชีออนไลน์ PEAK คลิกเพื่อทดลองใช้งานฟรี 30 วัน หรือ คลิกดูโปรโมชั่นของ PEAK ได้หรือโทร 1485 กด 1 เพื่อพูดคุยกับทีมงานของ PEAK เพิ่มเติม

ฉันใช้หลายกิจการต้องจ่ายค่าแพ็กเกจยังไง ?


การชำระเงินค่าแพ็กเกจของ PEAK จะเป็นการจ่าย 1 กิจการต่อ 1 แพ็กเกจ หากมี 3 กิจการจะต้องจ่าย 3 แพ็กเกจ

หากคุณสนใจโปรแกรมบัญชีออนไลน์ PEAK คลิกเพื่อทดลองใช้งานฟรี 30 วัน หรือ คลิกดูโปรโมชั่นของ PEAK ได้หรือโทร 1485 กด 1 เพื่อพูดคุยกับทีมงานของ PEAK เพิ่มเติม

ฉันต้องการย้ายข้อมูลจากโปรแกรมบัญชีเดิมมาโปรแกรม PEAK ทำอย่างไร ?


การเตรียมและย้ายข้อมูลจากโปรแกรมบัญชีเดิมมาที่โปรแกรม PEAK ง่ายๆ ด้วยตัวช่วยดังนี้

  1. เตรียมและย้ายข้อมูลด้วยตัวของคุณเองคลิกอ่านคู่มือที่ link https://bit.ly/3sKjMql การย้ายข้อมูลจากโปรแกรมเดิมมาที่ PEAK

  2. ย้ายข้อมูลด้วยคนจากสำนักงานบัญชีพาร์ทเนอร์ (มีค่าใช้จ่าย)

หากสนใจให้พาร์เนอร์ของ PEAK ช่วยย้ายข้อมูลให้ สามารถติดต่อเจ้าหน้าที่ PEAK ที่เบอร์ 1485 กด 1 ได้เลย